ความลับของตัวเลขบนสติ๊กเกอร์ผลไม้...เรื่องสำคัญที่ผู้บริโภคต้องรู้
เวลาเราไปเลือกซื้อผลไม้สดตามซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ๆ ที่นำสินค้าต่างประเทศเข้ามาขาย เคยสังเกตกันบ้างไหมคะว่า ผักผลไม้ที่นำเข้าจากเมืองนอก อย่างเช่น มะเขือเทศ แครอท แอปเปิล กล้วย ส้ม มะละกอ ฯลฯ จะมีสติ๊กเกอร์เล็ก ๆ ติดอยู่บนเปลือกของผลไม้ ซึ่งสติ๊กเกอร์เหล่านั้นนอกจากจะบอกว่าผักผลไม้นั้นนำเข้ามาจากประเทศไหนแล้ว ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นตัวเลข 4-5 หลักอยู่ในฉลากด้วย แต่เชื่อเถอะว่าหลายคนไม่ได้สนใจเจ้าตัวเลขพวกนั้นเท่าไรหรอก ทั้งที่ความจริงแล้ว ตัวเลขเหล่านี้มีความลับซ่อนอยู่ แถมผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ก็ต้องรู้ไว้ด้วยค่ะ
....วันนี้กระปุกดอทคอม จะมาเปิดเผยความลับของรหัสตัวเลขแปลก ๆ บนฉลากของผักผลไม้ให้ได้รู้กัน จากข้อมูลของ plucodes.com ใครที่เคยสงสัย ตามมาไขข้อข้องใจกันดีกว่า
สำหรับตัวเลขบนสติ๊กเกอร์นั้น เป็นตัวเลขที่ทาง International Federation for Produce Standards (IFPS) กำหนดขึ้น เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคได้รู้ว่า ผักผลไม้ที่เรากำลังจะซื้อนั้นใช้กรรมวิธีใดในการปลูก โดยตัวเลขที่ปรากฏบนสติ๊กเกอร์ผักผลไม้ จะมีในลักษณะดังต่อไปนี้
ตัวเลข 4 หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข 3 หรือ 4 เช่น 3XXX, 4XXX หมายถึงผักผลไม้นั้นปลูกด้วยวิธีการปกติ คือมีการใส่ปุ๋ย ใช้ยาฆ่าแมลงตามวิธีการดูแลรักษาผลผลิตทั่ว ๆ ไป
ตัวเลข 5 หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข 8 เช่น 8xxxxหมายถึง ผลไม้นั้นเป็นผลไม้ที่ปลูกด้วยวิธีการดัดแปลงทางพันธุกรรม หรือที่เรียกว่า จีเอ็มโอ
จีเอ็มโอ (GMOs) มาจากภาษาอังกฤษว่า Genetically Modified Organisms เป็นกระบวนการที่กำหนดให้ผลไม้นั้นมีลักษณะจำเพาะเจาะจงตามต้องการ เช่น มีความต้านทานต่อแมลงศัตรูพืช คงทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือมีการเพิ่มขึ้นของสารโภชนาการหรือชีวโมเลกุลบางชนิด เช่น วิตามิน โปรตีน ไขมัน เป็นต้น แต่ก็อาจทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการเจือปนของสารบางอย่างระหว่างผ่านกระบวนการก็เป็นได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคพืชผักที่มีการดัดแปลงพันธุกรรม
ตัวเลข 5 หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข 9 เช่น 9xxxx หมายถึง ผลไม้ออร์แกนิค ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค ดังนั้น เราสามารถเลือกซื้อผลไม้ที่ขึ้นต้นด้วยเลข 9 ไปทานได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีสารพิษ ยาฆ่าแมลงใด ๆ เจือปนนั่นเอง
เห็นความลับของตัวเลขบนสติ๊กเกอร์ผลไม้แล้ว บอกได้เลยว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ แบบเต็ม ๆ เลยล่ะ ดังนั้น ในการเลือกซื้อผักผลไม้ครั้งต่อไป อย่าลืมก้มอ่านตัวเลขบนฉลากกันก่อนนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก kapook.com,sanook.com,scb